ใช้ AI ผิดชีวิตเสี่ยง: แนะนำการใช้งาน AI ป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด

ปัจจุบันเราเห็นการใช้ AI ในหลากหลายหน้าที่ ตั้งแต่การช่วยตอบการบ้านไปจนถึงการตรวจหาอาวุธในสถานีรถไฟใต้ดิน แม้ว่า AI จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ไม่ประสงค์ดีจะนำ AI ไปใช้ในทางที่ผิดได้เช่น Deepfake ที่มีคนเอามาใช้ปลอมแปลงเป็นคนมีชื่อเสียง และหลอกลวงคนอื่น

ดังนั้น เราควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยี AI อย่างผิดๆ?

ESET ซึ่งเป็นผู้นำในการใช้ AI ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์มาอย่างยาวนาน เราบอกได้ว่าไม่มีวิธีตายตัวในการป้องกัน และซอฟต์แวร์ความปลอดภัยก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัยที่ช่วยลดผลกระทบเท่านั้น เพราะการตรวจจับสิ่งที่น่าสงสัยทั้งหมดอาจเป็นไปไม่ได้ หรืออาจเกิดการพลาดในการตรวจจับ

ด้วยเหตุนี้ เราจึงสร้างการป้องกันจากเทคโนโลยีหลายชั้น เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และถ้า AI กลายเป็นตัวร้าย เราก็สามารถใช้การรวมเทคโนโลยีหลายๆ ด้านมาควบคุมและแก้ไขสถานการณ์ได้

อาชญากรไซเบอร์ไม่ได้ใช้ AI ล้วนๆ ในการโจมตี แต่พวกเขานำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการโจมตี เช่น การโคลนเสียงและภาพเพื่อหลอกลวงผู้ใช้

การป้องกันการโจมตีเหล่านี้จำเป็นต้องใช้วิธีการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน ที่ไม่ใช่เพียงรหัสผ่านหรือเสียงเท่านั้น

ถ้าถามว่านี่เป็นความผิดของ AI หรือไม่ คำตอบนั้นยากที่จะชี้ชัด หากยกตัวอย่างรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติที่ใช้ AI แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ใครควรรับผิดชอบ? ระหว่างผู้ขับขี่ บริษัทผู้พัฒนารถยนต์ หรือกลุ่มนักพัฒนา AI

AI เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง ซึ่งส่วนมากถูกสร้างขึ้นมาภายใต้จุดประสงค์ที่ดี แต่ผลลัพธ์และผลกระทบที่ตามมานั้น ผู้ใช้ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบที่มากขึ้นด้วย

Source: https://www.welivesecurity.com/en/cybersecurity/what-happens-ai-goes-rogue-how-stop-it/
Translated by: Worapon H.