หน่วยงาน Internet Crime Report (IC3) รายงานว่า Federal Bureau of Investigation (FBI) ได้รับการรายงานมากกว่า 437,000 ครั้ง เกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ และคาดการณ์ความเสียหายโดยรวมมากกว่า 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นสามเท่าของปี 2015
Business Email Compromise (BEC) หรือการหลอกลวงองค์กรด้วยอีเมลยังคงเป็นอันดับหนึ่งที่สร้างความเสียหายให้กับองค์กรธุรกิจ โดยคิดเป็น 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของความเสียหายทั้งหมด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 เหล่ามิจฉาชีพออนไลน์เริ่มจากการปลอมแปลงอีเมลว่ามาจากผู้บริหารหรือฝ่ายการเงินและต้องการให้โอนเงิน แล้วก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มีการปลอมแปลงอีเมลของทนาย
ปีที่ผ่านมาการย้ายบัญขีเงินเดือนก็เป็นลูกเล่นใหม่ ที่โจมตีฝ่าย HR และบัญชี โดยจะมีอีเมลไปยังแผนกเพื่อให้เปลี่ยนบัญชีสำหรับโอนเงินเดือน แล้วเปลี่ยนปลายทางไปยังบัญชีของแฮกเกอร์แทน
ผู้อาวุโสเป็นเป้าหมายมากที่สุด ทั้งเรื่องรักๆใคร่ๆ เทคโนโลยี ปลอมตัวเป็นคนจากรัฐบาล และล็อตเตอรี่ ซึ่ง 30% ของการโกงด้วยเรื่องรักๆใคร่ๆเป็นการหลอกเอาเงินทั้งสิ้น
เทคโนโลยีเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ผู้อาวุโสเผชิญอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้มีบริการช่วยเหลือและในขณะเดียวกันก็มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาเพื่อขโมยข้อมูล
ในตอนนี้ก็มีกลโกงใหม่ๆ ทั้งเอเจนซี่ท่องเที่ยว สถาบันการเงิน หรือแม้กระทั่งการแลกเปลี่ยนสกุลเงินออนไลน์ สร้างความเสียหายโดยรวมไปมากกว่า 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี ตกเป็นเหยื่อมากที่สุด
อีเมลก็เป็นอีกช่องทางที่อาชญากรไซเบอร์หรือแฮกเกอร์ใช้เพื่อแพร่กระจายโปรแกรมเรียกค่าไถ่ สร้างความเสียหายร่วม 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โจมตีผู้ใช้กว่า 2000 ราย แต่ Phishing โจมตีผู้ใช้มากที่สุดที่ 114,072 ราย
แต่อย่างไรก็ตามทางหน่วยงาน Recivery Asset Team (RAT) ของ FBI ก็ช่วยเรียกคืนเงินมาได้ถึง 305 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 79% ของจำนวนเงินที่รายงาน
Author: Amer Owaida
Source: https://www.welivesecurity.com/2020/02/13/fbi-cybercrime-losses-tripled-last-5-years/
Translated by: Worapon H.
หน่วยงาน Internet Crime Report (IC3) รายงานว่า Federal Bureau of Investigation (FBI) ได้รับการรายงานมากกว่า 437,000 ครั้ง เกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ และคาดการณ์ความเสียหายโดยรวมมากกว่า 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นสามเท่าของปี 2015
Business Email Compromise (BEC) หรือการหลอกลวงองค์กรด้วยอีเมลยังคงเป็นอันดับหนึ่งที่สร้างความเสียหายให้กับองค์กรธุรกิจ โดยคิดเป็น 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของความเสียหายทั้งหมด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 เหล่ามิจฉาชีพออนไลน์เริ่มจากการปลอมแปลงอีเมลว่ามาจากผู้บริหารหรือฝ่ายการเงินและต้องการให้โอนเงิน แล้วก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มีการปลอมแปลงอีเมลของทนาย
ปีที่ผ่านมาการย้ายบัญขีเงินเดือนก็เป็นลูกเล่นใหม่ ที่โจมตีฝ่าย HR และบัญชี โดยจะมีอีเมลไปยังแผนกเพื่อให้เปลี่ยนบัญชีสำหรับโอนเงินเดือน แล้วเปลี่ยนปลายทางไปยังบัญชีของแฮกเกอร์แทน
ผู้อาวุโสเป็นเป้าหมายมากที่สุด ทั้งเรื่องรักๆใคร่ๆ เทคโนโลยี ปลอมตัวเป็นคนจากรัฐบาล และล็อตเตอรี่ ซึ่ง 30% ของการโกงด้วยเรื่องรักๆใคร่ๆเป็นการหลอกเอาเงินทั้งสิ้น
เทคโนโลยีเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ผู้อาวุโสเผชิญอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้มีบริการช่วยเหลือและในขณะเดียวกันก็มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาเพื่อขโมยข้อมูล
ในตอนนี้ก็มีกลโกงใหม่ๆ ทั้งเอเจนซี่ท่องเที่ยว สถาบันการเงิน หรือแม้กระทั่งการแลกเปลี่ยนสกุลเงินออนไลน์ สร้างความเสียหายโดยรวมไปมากกว่า 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี ตกเป็นเหยื่อมากที่สุด
อีเมลก็เป็นอีกช่องทางที่อาชญากรไซเบอร์หรือแฮกเกอร์ใช้เพื่อแพร่กระจายโปรแกรมเรียกค่าไถ่ สร้างความเสียหายร่วม 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โจมตีผู้ใช้กว่า 2000 ราย แต่ Phishing โจมตีผู้ใช้มากที่สุดที่ 114,072 ราย
แต่อย่างไรก็ตามทางหน่วยงาน Recivery Asset Team (RAT) ของ FBI ก็ช่วยเรียกคืนเงินมาได้ถึง 305 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 79% ของจำนวนเงินที่รายงาน
Author: Amer Owaida
Source: https://www.welivesecurity.com/2020/02/13/fbi-cybercrime-losses-tripled-last-5-years/
Translated by: Worapon H.
แบ่งปันสิ่งนี้: