บางครั้งคุณอาจสงสัยว่าเบราว์เซอร์ Google Chrome ของคุณบางครั้งก็เร็ว บางครั้งก็ช้า วันนี้เราจึงขอแนะนำ 6 วิธีในการเพิ่มความเร็วให้กับ Google Chrome
1. ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและแอนตี้มัลแวร์
สาเหตุที่ทำให้เบราว์เซอร์ทำงานช้าอาจมีมัลแวร์เป็นสาเหตุ ดังนั้นการใช้โปรแกรมสแกนจึงเป็นทางออกที่สมเหตุสมผล
2. ปรับความเร็วเรนเดอร์รูปภาพ
การดาวน์โหลดรูปภาพจำนวนมากในคราวเดียวจะทำให้เบราว์เซอร์ทำงานได้ช้าลง ด้วยการไปที่ chrome://flags และใช้ฟังก์ชั่น CTRL+F เพื่อหาคำว่า “Number of Raster” และเปลี่ยน Default Setting เป็น 4
3. คืนค่าการตั้งค่าเบราว์เซอร์
ในกรณีที่เบราว์เซอร์ของคุณทำงานได้ไม่เหมือนเคย การตั้งค่าเริ่มต้นช่วยคุณได้ โดยเฉพาะถ้าคุณดาวน์โหลด Extension อยู่บ่อยครั้ง เพราะการติดตั้ง Extension บางตัวส่งผลกระทบต่อการตั้งค่า
4. เลือก Extension ที่ใช้งานจริง
สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว ส่วนเสริมหรือ Extension แต่ละตัวในเบราว์เซอร์ส่งผลกระทบต่อการใข้งานไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นการคัด Extension ที่ไม่ได้ใช้งานย่อมเกิดผลดีต่อเบราว์เซอร์ของคุณ
5. ปิด Flash Permission
เนื้อหาที่เป็น Flash ส่งผลกระทบต่อความเร็วของเบราว์เซอร์ ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าให้เนื้อหาที่เป็น Flash ทำงานต่อเมื่อคุณตอบตกลงเท่านั้นได้โดยการไปที่ chrome://settings/content ที่ Address Bar แล้วเลือก Ask first
6. ใช้เครื่องมือ Chrome Cleanup Tool
สำหรับผู้ใช้งาน Windows มีเครื่องมืออยู่ชิ้นหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยสแกนและลบสิ่งต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ออกจากเบราว์เซอร์ของคุณ ทั้งช่วยลดอาการหน่วง และโฆษณาต่างๆ
บางครั้งคุณอาจสงสัยว่าเบราว์เซอร์ Google Chrome ของคุณบางครั้งก็เร็ว บางครั้งก็ช้า วันนี้เราจึงขอแนะนำ 6 วิธีในการเพิ่มความเร็วให้กับ Google Chrome
1. ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและแอนตี้มัลแวร์
สาเหตุที่ทำให้เบราว์เซอร์ทำงานช้าอาจมีมัลแวร์เป็นสาเหตุ ดังนั้นการใช้โปรแกรมสแกนจึงเป็นทางออกที่สมเหตุสมผล
2. ปรับความเร็วเรนเดอร์รูปภาพ
การดาวน์โหลดรูปภาพจำนวนมากในคราวเดียวจะทำให้เบราว์เซอร์ทำงานได้ช้าลง ด้วยการไปที่ chrome://flags และใช้ฟังก์ชั่น CTRL+F เพื่อหาคำว่า “Number of Raster” และเปลี่ยน Default Setting เป็น 4
3. คืนค่าการตั้งค่าเบราว์เซอร์
ในกรณีที่เบราว์เซอร์ของคุณทำงานได้ไม่เหมือนเคย การตั้งค่าเริ่มต้นช่วยคุณได้ โดยเฉพาะถ้าคุณดาวน์โหลด Extension อยู่บ่อยครั้ง เพราะการติดตั้ง Extension บางตัวส่งผลกระทบต่อการตั้งค่า
4. เลือก Extension ที่ใช้งานจริง
สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว ส่วนเสริมหรือ Extension แต่ละตัวในเบราว์เซอร์ส่งผลกระทบต่อการใข้งานไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นการคัด Extension ที่ไม่ได้ใช้งานย่อมเกิดผลดีต่อเบราว์เซอร์ของคุณ
5. ปิด Flash Permission
เนื้อหาที่เป็น Flash ส่งผลกระทบต่อความเร็วของเบราว์เซอร์ ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าให้เนื้อหาที่เป็น Flash ทำงานต่อเมื่อคุณตอบตกลงเท่านั้นได้โดยการไปที่ chrome://settings/content ที่ Address Bar แล้วเลือก Ask first
6. ใช้เครื่องมือ Chrome Cleanup Tool
สำหรับผู้ใช้งาน Windows มีเครื่องมืออยู่ชิ้นหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยสแกนและลบสิ่งต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ออกจากเบราว์เซอร์ของคุณ ทั้งช่วยลดอาการหน่วง และโฆษณาต่างๆ
แบ่งปันสิ่งนี้: