อีเมล์เป็นช่องหนึ่งที่แฮกเกอร์มักใช้เพื่อแพร่กระจายไวรัสมัลแวร์ หรือแม้กระทั่งเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงข้อมูลจากผู้ใช้ ลูกเล่นง่ายๆที่แฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพออนไลน์นิยมก็ใช้ก็คือการปลอมรูปแบบอีเมล์ให้คล้ายกับของธนาคาร ด้วยเหตุนี้ทางเราจึงขอแนะนำ 5 ลักษณะของอีเมล์ที่ปลอมตัวเป็นธนาคาร
1. ธนาคารต้องทราบชื่อของลูกค้า
หลายครั้งที่เราได้รับอีเมล์ที่ขึ้นหัวกระดาษว่า Dear Customer หรือ “ถึงผู้ใช้บริการ” หรืออะไรก็ตามในลักษณะนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนแรก เพราะธนาคารทราบชื่อลูกค้าของพวกเขาแน่นอนอยู่แล้ว และเป็นไปไม่ได้เลยที่ธนาคารจะส่งอีเมล์มาให้ลูกค้าโดยไม่ระบุชื่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมล์นับพันฉบับในครั้งเดียว และพวกเขาคงไม่มีเวลาพอที่จะหาข้อมูลทุกคนที่เป็นเป้าหมาย
2. ธนาคารจะไม่ขอข้อมูลลูกค้า
ไม่ว่าจะอยู่ในกรณีฉุกเฉินธนาคารจะไม่ขอข้อมูลจากลูกค้าเป็นอันขาด แม้ทางธนาคารต้องการจะยืนยันตัวตนลูกค้า พวกเขาก็จะใช้เพียงคำถามไม่กี่คำถามเพื่อตรวจสอบ เพราะฉะนั้นหากคุณได้รับสายหรืออีเมล์ที่เข้ามาขอข้อมูลอย่าง ชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ ระวังไว้ให้ดี และให้ติดต่อทางธนาคารจริงทันที
3. ธนาคารไม่ย่อขนาดลิงก์
บนโซเชี่ยลมีเดียการย่อขนาดลิงก์เพื่อความสวยงาม และประหยัดพื้นที่ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ธนาคารจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะลิงก์ที่ย่อขนาดมาอาจทำเพื่อปิดบังตัวตนของเว็บไซต์ที่พวกเขาต้องการให้ผู้ใช้เข้าไป ดังนั้นอย่าคลิก
4. ธนาคารจะไม่ขอให้อัพเดตแอปฯผ่านอีเมล์
ถ้าคุณได้รับอีเมล์ให้อัพเดตแอปพลิเคชั่นของธนาคาร พร้อมแนบลิงก์มาด้วย อย่ารีบคลิก แต่ให้เข้า App Store อย่าง Google Play หรือ Apple Store เพื่อเช็คว่ามีอัพเดตเหล่านั้นจริงๆหรือไม่
5. ธนาคารจะไม่กำหนดเวลากับคุณ
อีเมล์หลอกข้อมูล (Phishing Email) มักกำหนดระยะเวลากรอก และระบุสิ่งที่คุณจะเสียไปหากไม่ทำตาม ในขณะที่ธนาคารจะไม่ทำแบบเดียวกันนี้ อาจเป็นเพราะเว็บไซต์ของแฮกเกอร์อาจต้องถูกปิดในเร็ววัน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกอย่างๆรวดเร็ว
Source: https://www.welivesecurity.com/videos/5-signs-that-emails-not-from-your-bank/
Translated by: Worapon H.
อีเมล์เป็นช่องหนึ่งที่แฮกเกอร์มักใช้เพื่อแพร่กระจายไวรัสมัลแวร์ หรือแม้กระทั่งเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงข้อมูลจากผู้ใช้ ลูกเล่นง่ายๆที่แฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพออนไลน์นิยมก็ใช้ก็คือการปลอมรูปแบบอีเมล์ให้คล้ายกับของธนาคาร ด้วยเหตุนี้ทางเราจึงขอแนะนำ 5 ลักษณะของอีเมล์ที่ปลอมตัวเป็นธนาคาร
1. ธนาคารต้องทราบชื่อของลูกค้า
หลายครั้งที่เราได้รับอีเมล์ที่ขึ้นหัวกระดาษว่า Dear Customer หรือ “ถึงผู้ใช้บริการ” หรืออะไรก็ตามในลักษณะนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนแรก เพราะธนาคารทราบชื่อลูกค้าของพวกเขาแน่นอนอยู่แล้ว และเป็นไปไม่ได้เลยที่ธนาคารจะส่งอีเมล์มาให้ลูกค้าโดยไม่ระบุชื่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมล์นับพันฉบับในครั้งเดียว และพวกเขาคงไม่มีเวลาพอที่จะหาข้อมูลทุกคนที่เป็นเป้าหมาย
2. ธนาคารจะไม่ขอข้อมูลลูกค้า
ไม่ว่าจะอยู่ในกรณีฉุกเฉินธนาคารจะไม่ขอข้อมูลจากลูกค้าเป็นอันขาด แม้ทางธนาคารต้องการจะยืนยันตัวตนลูกค้า พวกเขาก็จะใช้เพียงคำถามไม่กี่คำถามเพื่อตรวจสอบ เพราะฉะนั้นหากคุณได้รับสายหรืออีเมล์ที่เข้ามาขอข้อมูลอย่าง ชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ ระวังไว้ให้ดี และให้ติดต่อทางธนาคารจริงทันที
3. ธนาคารไม่ย่อขนาดลิงก์
บนโซเชี่ยลมีเดียการย่อขนาดลิงก์เพื่อความสวยงาม และประหยัดพื้นที่ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ธนาคารจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะลิงก์ที่ย่อขนาดมาอาจทำเพื่อปิดบังตัวตนของเว็บไซต์ที่พวกเขาต้องการให้ผู้ใช้เข้าไป ดังนั้นอย่าคลิก
4. ธนาคารจะไม่ขอให้อัพเดตแอปฯผ่านอีเมล์
ถ้าคุณได้รับอีเมล์ให้อัพเดตแอปพลิเคชั่นของธนาคาร พร้อมแนบลิงก์มาด้วย อย่ารีบคลิก แต่ให้เข้า App Store อย่าง Google Play หรือ Apple Store เพื่อเช็คว่ามีอัพเดตเหล่านั้นจริงๆหรือไม่
5. ธนาคารจะไม่กำหนดเวลากับคุณ
อีเมล์หลอกข้อมูล (Phishing Email) มักกำหนดระยะเวลากรอก และระบุสิ่งที่คุณจะเสียไปหากไม่ทำตาม ในขณะที่ธนาคารจะไม่ทำแบบเดียวกันนี้ อาจเป็นเพราะเว็บไซต์ของแฮกเกอร์อาจต้องถูกปิดในเร็ววัน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำทุกอย่างๆรวดเร็ว
Source: https://www.welivesecurity.com/videos/5-signs-that-emails-not-from-your-bank/
Translated by: Worapon H.
แบ่งปันสิ่งนี้: