นอกจากเด็กๆแล้วผู้สูงอายุก็มีความเสี่ยงสูงที่จะตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงออนไลน์ รู้หรือไม่ว่าผู้สูงอายุชาวอเมริกันสูญเสียเงินจากการหลอกลวงบนอินเตอร์เน็ตรวมมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี ซึ่งยังไม่นับเหยื่อที่ไม่ได้รายงาน
สิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อของกลโกงออนไลน์ก็เพราะมิจฉาชีพเข้าใจธรรมชาติของเหยื่อ ธรรมชาติของคนที่ไม่ได้โตมาพร้อมเทคโนโลยี และไม่เคยผ่านการอบรมความปลอดภัยไซเบอร์
ด้วยเหตุนี้เราจึงรวบรวมวิธีการรับมือกับกลโกงฉบับผู้อาวุโส
สงสัยเอาไว้ก่อน
อย่าหลงเชื่อความช่วยเหลือที่เข้ามาโดยไม่มีที่มา เพราะเอาตามจริงส่วนมากเรารับข้อมูลจากคนรู้จัก ซึ่งอาจมาจากช่องทางทั้งอีเมล แอปพลิเคชั่นส่งข้อความ หรือโซเชี่ยลมีเดีย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ข้อความจากคนที่เรารู้จักอาจเป็นบัญชีที่โดนแฮกมาก็เป็นได้
อย่าคลิก
การโจมตี Phishing เป็นการโจมตีที่แฮกเกอร์นิยมใช้มากที่สุด ด้วยการใช้อีเมลหรือข้อความที่ปลอมแปลงว่ามาจากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือคนรู้จัก และหลอกให้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รายละเอียดบัตรเครดิต/เดบิต หรือข้อมูลส่วนตัว เหล่ามิจฉาชีพออนไลน์หรือแฮกเกอร์ก็ออกแบบอีเมลได้อย่างแนบเนียนมากขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นหากจะทำอะไรที่สำคัญให้ติดต่อกับต้นสังกัดหรือผู้ให้บริการโดยตรง
ของฟรีไม่มีอยู่จริง
การถูกรางวัลต่างๆ ที่เราเคยเห็นไม่ว่าจะเป็น iPhone รุ่นใหม่หรือ Samsung Galaxy รุ่นล่าสุด เป็นเหมือนเหยื่อล่อให้เราคลิกเท่านั้น ก่อนที่จะให้กรอกข้อมูลสำคัญลงไป หรือให้ดาวน์โหลดอะไรบางอย่างลงบนเครื่องซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ไม่โอนเงินให้คนแปลกหน้า
ถ้าอ่านจากหัวข้ออาจเป็นสิ่งที่ชัดเจน แต่รู้หรือไม่ว่าการโอนเงินให้คนแปลกหน้าเป็นการหลอกลวงอันดับสองที่สร้างความเสียหายเป็นตัวเงินมากที่สุด คิดเป็น 362 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 1 ใน 3 ของที่หน่วยงาน Internet Crime Report ของ FBI เกี่ยวกับการหลอกลวงให้โอนเงิน
วางสาย
แก๊งค์ Call Center เป็นมิจฉาชีพรูปแบบหนึ่งซึ่งหลายครั้งหลอกว่ามีโปรแกรมอันตรายบนเครื่องและให้บริการรีโมตเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจริงๆโปรแกรมอันตรายดังกล่าวก็ไม่มีจริง และหลังจากนี้ก็จะเป็นการหลอกลวงทั้งหมด
Author: Tomáš Foltýn
Source: https://www.welivesecurity.com/2019/12/09/5-scam-prevention-tips-seniors/
Translated by: Worapon H.
นอกจากเด็กๆแล้วผู้สูงอายุก็มีความเสี่ยงสูงที่จะตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงออนไลน์ รู้หรือไม่ว่าผู้สูงอายุชาวอเมริกันสูญเสียเงินจากการหลอกลวงบนอินเตอร์เน็ตรวมมูลค่ากว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี ซึ่งยังไม่นับเหยื่อที่ไม่ได้รายงาน
สิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อของกลโกงออนไลน์ก็เพราะมิจฉาชีพเข้าใจธรรมชาติของเหยื่อ ธรรมชาติของคนที่ไม่ได้โตมาพร้อมเทคโนโลยี และไม่เคยผ่านการอบรมความปลอดภัยไซเบอร์
ด้วยเหตุนี้เราจึงรวบรวมวิธีการรับมือกับกลโกงฉบับผู้อาวุโส
สงสัยเอาไว้ก่อน
อย่าหลงเชื่อความช่วยเหลือที่เข้ามาโดยไม่มีที่มา เพราะเอาตามจริงส่วนมากเรารับข้อมูลจากคนรู้จัก ซึ่งอาจมาจากช่องทางทั้งอีเมล แอปพลิเคชั่นส่งข้อความ หรือโซเชี่ยลมีเดีย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ข้อความจากคนที่เรารู้จักอาจเป็นบัญชีที่โดนแฮกมาก็เป็นได้
อย่าคลิก
การโจมตี Phishing เป็นการโจมตีที่แฮกเกอร์นิยมใช้มากที่สุด ด้วยการใช้อีเมลหรือข้อความที่ปลอมแปลงว่ามาจากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือคนรู้จัก และหลอกให้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รายละเอียดบัตรเครดิต/เดบิต หรือข้อมูลส่วนตัว เหล่ามิจฉาชีพออนไลน์หรือแฮกเกอร์ก็ออกแบบอีเมลได้อย่างแนบเนียนมากขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นหากจะทำอะไรที่สำคัญให้ติดต่อกับต้นสังกัดหรือผู้ให้บริการโดยตรง
ของฟรีไม่มีอยู่จริง
การถูกรางวัลต่างๆ ที่เราเคยเห็นไม่ว่าจะเป็น iPhone รุ่นใหม่หรือ Samsung Galaxy รุ่นล่าสุด เป็นเหมือนเหยื่อล่อให้เราคลิกเท่านั้น ก่อนที่จะให้กรอกข้อมูลสำคัญลงไป หรือให้ดาวน์โหลดอะไรบางอย่างลงบนเครื่องซึ่งไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ไม่โอนเงินให้คนแปลกหน้า
ถ้าอ่านจากหัวข้ออาจเป็นสิ่งที่ชัดเจน แต่รู้หรือไม่ว่าการโอนเงินให้คนแปลกหน้าเป็นการหลอกลวงอันดับสองที่สร้างความเสียหายเป็นตัวเงินมากที่สุด คิดเป็น 362 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 1 ใน 3 ของที่หน่วยงาน Internet Crime Report ของ FBI เกี่ยวกับการหลอกลวงให้โอนเงิน
วางสาย
แก๊งค์ Call Center เป็นมิจฉาชีพรูปแบบหนึ่งซึ่งหลายครั้งหลอกว่ามีโปรแกรมอันตรายบนเครื่องและให้บริการรีโมตเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจริงๆโปรแกรมอันตรายดังกล่าวก็ไม่มีจริง และหลังจากนี้ก็จะเป็นการหลอกลวงทั้งหมด
Author: Tomáš Foltýn
Source: https://www.welivesecurity.com/2019/12/09/5-scam-prevention-tips-seniors/
Translated by: Worapon H.
แบ่งปันสิ่งนี้: