ในช่วงท้ายปีกับต้นปีเป็นช่วงที่คนส่วนมากนั้นจะค่อนข้างยุ่ง อาชญากรไซเบอร์ก็เช่นกัน พวกเขายังคงหาช่องทางเจาะเครือข่ายของผู้ใช้
Internet of Things (IoT) หรืออุปกรณ์ใดๆที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่แฮกเกอร์โปรดปราน เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ส่วนหนึ่งออกแบบโดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและการถูกเจาะระบบ อีกเหตุผลหนึ่งก็คืออุปกรณ์เหล่านี้บางชนิดเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ อย่าง ชื่อ ที่อยู่ วันเกิดปีเกิด อีเมล ซึ่งแฮกเกอร์สามารถนำไปต่อยอดได้
สมาร์ททีวี (Smart TV) ก็นับว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ IoT และตอนนี้สมาร์ททีวีมีฟีเจอร์ที่สามารถใช้เสียงออกคำสั่งแทนรีโมต นั่นหมายความว่าเจ้าสมาร์ททีวีนั้นต้องบันทึกเสียงของคนรอบๆตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมทีวีได้อีกด้วย
เคล็ดลับการรักษาความปลอดภัยให้ทีวี
1. ป้องกันรหัสผ่านของเร้าเตอร์
ตัวกลางในการกระจายอินเตอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์ IoT ก็คือเร้าเตอร์ ดังนั้นการเริ่มต้นที่ดีก็คือการรักษาความปลอดภัยให้กับเร้าเตอร์ เพราะถ้าเร้าเตอร์ตกอยู่ในความเสี่ยง ทั้งระบบก็ตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย
ทั้งนี้เพื่อป้องกันการโจมตีที่เรียกว่า Man-in-the-Middle (MITM) หรือการที่แฮกเกอร์ใช้ช่องทางเครือข่ายเร้าเตอร์เพื่อไปติดตั้งมัลแวร์ในสมาร์ททีวีของคุณ เพราะฉะนั้นอันดับแรกก็คือเปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้นของเร้าเตอร์ ให้เป็นรหัสผ่านที่แข็งแรง
เสริมความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์ที่รองรับ WPA3 Protocol หรือมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของ Wi-Fi
2. จัดระเบียบให้กับเครือข่ายและอุปกรณ์
หลายบ้านคงมีอุปกรณ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่เชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกัน เราขอให้พวกคุณแยกชนิดของอุปกรณ์ และให้อนุญาตการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละอุปกรณ์ตามสมควร เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญในอุปกรณ์
3. ตั้งค่าสมาร์ททีวี
เช่นเดียวกับที่คุณทำเร้าเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ การตั้งค่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ อย่างแรกที่คุณต้องให้ความสำคัญก็คือ ข้อมูลที่อุปกรณ์เก็บและแบ่งปันกับผู้ผลิตรายอื่นๆ รวมถึงการบันทึกเสียง คุณสามารถปิดได้
ถ้าทีวีของคุณมีกล้องติดมาด้วย หากคุณไม่ใช้ก็ควรปิดเอาไว้ เนื่องจากเราเห็นหลายกรณีที่แฮกเกอร์สามารถแฮกเข้ามาในกล้องได้ผ่านอินเตอร์เน็ต
4. อัพเดตอุปกรณ์
งานของอาชญากรไซเบอร์คือการมองหาช่องโหว่ และใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เข้าถึงอุปกรณ์ เครือข่าย หรือคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ช่องโหว่ก็เหมือนกับจุดอ่อนที่เปิดใช้แฮกเกอร์เข้าถึงอุปกรณ์ของคุณ
อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ อย่าง สมาร์ททีวี มีสิ่งที่เรียกว่าเฟิร์มแวร์ เช่นเดียวกับระบบคอมพิวเตอร์ ที่จำเป็นต้องมีการอัพเดตแก้ไขช่องโหว่ระบบที่เรียกว่าแพทช์ และอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ
5. ติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัย
สมาร์ททีวีที่ใช้งานระบบแอนดรอยด์สามารถติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัยได้เหมือนกับ คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เนื่องจากอุปกรณืเหล่านี้อาจติดไวรัสมัลแวร์ได้เช่นเดียวกัน
ESET มีให้บริการ ESET Smart TV security บน Google Play ให้คุณได้รักษาความปลอดภัย สมาร์ททีวีของคุณได้ตลอดเวลา
6. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเสริมอย่างระวัง
Potentially Unwanted Application (PUA) เป็นหนึ่งในสิ่งกวนใจของผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ IoT และ Google ถอนแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ไม่ต่ำกว่า 2,000 แอปฯต่อวัน
โทรจันธุรกรรม แอปฯรักษาความปลอดภัยปลอม แอปฯฟรีที่เลียนแบบแอปฯจ่ายเงิน หรือแอปฯอันตรายที่ปลอมตัวเป็นเกมหรืแอปฯยอดนิยม ที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อเข้าถึงตัวผู้ใช้ ในสมาร์ททีวีก็มีเช่นกัน หากคุณไม่ระวัง
สรุป
ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จะช่วยให้สมาร์ททีวีและข้อมูลส่วนตัวของคุณปลอดภัย ให้คุณสามารถนั่งดูทีวีได้อย่างสบายใจ แต่ที่เราพยายามจะบอกก็คือ อุปกรณ์ทุกชนิดที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ย่อมมีความเสี่ยงที่แฮกเกอร์จะเข้ามา
Author: Gabrielle Ladouceur Despins
Source: https://www.welivesecurity.com/2018/10/01/protecting-your-smart-tv/
Translated by: Worapon H.
ในช่วงท้ายปีกับต้นปีเป็นช่วงที่คนส่วนมากนั้นจะค่อนข้างยุ่ง อาชญากรไซเบอร์ก็เช่นกัน พวกเขายังคงหาช่องทางเจาะเครือข่ายของผู้ใช้
Internet of Things (IoT) หรืออุปกรณ์ใดๆที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่แฮกเกอร์โปรดปราน เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ส่วนหนึ่งออกแบบโดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและการถูกเจาะระบบ อีกเหตุผลหนึ่งก็คืออุปกรณ์เหล่านี้บางชนิดเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ อย่าง ชื่อ ที่อยู่ วันเกิดปีเกิด อีเมล ซึ่งแฮกเกอร์สามารถนำไปต่อยอดได้
สมาร์ททีวี (Smart TV) ก็นับว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ IoT และตอนนี้สมาร์ททีวีมีฟีเจอร์ที่สามารถใช้เสียงออกคำสั่งแทนรีโมต นั่นหมายความว่าเจ้าสมาร์ททีวีนั้นต้องบันทึกเสียงของคนรอบๆตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมทีวีได้อีกด้วย
เคล็ดลับการรักษาความปลอดภัยให้ทีวี
1. ป้องกันรหัสผ่านของเร้าเตอร์
ตัวกลางในการกระจายอินเตอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์ IoT ก็คือเร้าเตอร์ ดังนั้นการเริ่มต้นที่ดีก็คือการรักษาความปลอดภัยให้กับเร้าเตอร์ เพราะถ้าเร้าเตอร์ตกอยู่ในความเสี่ยง ทั้งระบบก็ตกอยู่ในความเสี่ยงไปด้วย
ทั้งนี้เพื่อป้องกันการโจมตีที่เรียกว่า Man-in-the-Middle (MITM) หรือการที่แฮกเกอร์ใช้ช่องทางเครือข่ายเร้าเตอร์เพื่อไปติดตั้งมัลแวร์ในสมาร์ททีวีของคุณ เพราะฉะนั้นอันดับแรกก็คือเปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้นของเร้าเตอร์ ให้เป็นรหัสผ่านที่แข็งแรง
เสริมความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์ที่รองรับ WPA3 Protocol หรือมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของ Wi-Fi
2. จัดระเบียบให้กับเครือข่ายและอุปกรณ์
หลายบ้านคงมีอุปกรณ์จำนวนนับไม่ถ้วนที่เชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกัน เราขอให้พวกคุณแยกชนิดของอุปกรณ์ และให้อนุญาตการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละอุปกรณ์ตามสมควร เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญในอุปกรณ์
3. ตั้งค่าสมาร์ททีวี
เช่นเดียวกับที่คุณทำเร้าเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ การตั้งค่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ อย่างแรกที่คุณต้องให้ความสำคัญก็คือ ข้อมูลที่อุปกรณ์เก็บและแบ่งปันกับผู้ผลิตรายอื่นๆ รวมถึงการบันทึกเสียง คุณสามารถปิดได้
ถ้าทีวีของคุณมีกล้องติดมาด้วย หากคุณไม่ใช้ก็ควรปิดเอาไว้ เนื่องจากเราเห็นหลายกรณีที่แฮกเกอร์สามารถแฮกเข้ามาในกล้องได้ผ่านอินเตอร์เน็ต
4. อัพเดตอุปกรณ์
งานของอาชญากรไซเบอร์คือการมองหาช่องโหว่ และใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เข้าถึงอุปกรณ์ เครือข่าย หรือคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ช่องโหว่ก็เหมือนกับจุดอ่อนที่เปิดใช้แฮกเกอร์เข้าถึงอุปกรณ์ของคุณ
อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ อย่าง สมาร์ททีวี มีสิ่งที่เรียกว่าเฟิร์มแวร์ เช่นเดียวกับระบบคอมพิวเตอร์ ที่จำเป็นต้องมีการอัพเดตแก้ไขช่องโหว่ระบบที่เรียกว่าแพทช์ และอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ
5. ติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัย
สมาร์ททีวีที่ใช้งานระบบแอนดรอยด์สามารถติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัยได้เหมือนกับ คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เนื่องจากอุปกรณืเหล่านี้อาจติดไวรัสมัลแวร์ได้เช่นเดียวกัน
ESET มีให้บริการ ESET Smart TV security บน Google Play ให้คุณได้รักษาความปลอดภัย สมาร์ททีวีของคุณได้ตลอดเวลา
6. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเสริมอย่างระวัง
Potentially Unwanted Application (PUA) เป็นหนึ่งในสิ่งกวนใจของผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ IoT และ Google ถอนแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ไม่ต่ำกว่า 2,000 แอปฯต่อวัน
โทรจันธุรกรรม แอปฯรักษาความปลอดภัยปลอม แอปฯฟรีที่เลียนแบบแอปฯจ่ายเงิน หรือแอปฯอันตรายที่ปลอมตัวเป็นเกมหรืแอปฯยอดนิยม ที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อเข้าถึงตัวผู้ใช้ ในสมาร์ททีวีก็มีเช่นกัน หากคุณไม่ระวัง
สรุป
ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จะช่วยให้สมาร์ททีวีและข้อมูลส่วนตัวของคุณปลอดภัย ให้คุณสามารถนั่งดูทีวีได้อย่างสบายใจ แต่ที่เราพยายามจะบอกก็คือ อุปกรณ์ทุกชนิดที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ย่อมมีความเสี่ยงที่แฮกเกอร์จะเข้ามา
Author: Gabrielle Ladouceur Despins
Source: https://www.welivesecurity.com/2018/10/01/protecting-your-smart-tv/
Translated by: Worapon H.
แบ่งปันสิ่งนี้: