นักวิจัยความปลอดภัยทดลองสร้างแอปพลิเคชั่นที่สามารถติดตามผู้ใช้ โดยมีเงื่อนไขว่าแอปพลิเคชั่นจะต้องไม่ใช้ข้อมูล GPS และไม่ต้องอาศัยให้ผู้ใช้เปิด GPS
ในมุมมองของนักวิจัยบอกว่าเป็นไปได้เพราะโทรศัพท์ในปัจจุบันมีเซ็นเซอร์ที่แม่นยำ และอาศัยแหล่งข้อมูลอื่นๆ อย่างเช่นแผนที่ ข้อมูลพยากรณ์ และการเคลื่อนไหวของผู้ใช้
แอปพลิเคชั่นดังกล่าวชื่อ PinMe app ผลิตโดยทีมงานวิจัย Princeton และอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบก็มี Galaxy S4 i9500 iPhone 6 และ iPhone 6S
โดยแอปพลิเคชั่นนี้สามารถใช้ข้อมูลต่างๆเพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องเข้าถึงข้อมูล GPS ของอุปกรณ์ที่ทดสอบ
แอปพลิเคชั่นใช้วิธีรวบรวมข้อมูลผู้ใช้อย่าง IP Address และการเชื่อมต่อ WiFi เพื่อเทียบกับฐานข้อมูล WiFi สาธารณะ และคาดคะเนตำแหน่งของผู้ใช้
หลังจากนั้นจะใช้ข้อมูลจาก Gyroscope, Accelerometer และ Altitude Sensors เพื่อประเมินความเร็วการเคลื่อนที่ของผู้ใช้ ทิศทาง และแอปพลิเคชั่นจะใช้ข้อมูลทั้งหมดเพื่อกำหนดว่าผู้ใช้กำลังเดินทางด้วยวิธีไหน เดิน ขับรถ รถไฟ หรือเครื่องบิน
เมื่อแอปพลิเคชั่นสามารถกำหนดตำแหน่งของผู้ใช้ และรูปแบบการเดินทางได้แล้ว แอปพลิเคชั่นจะใช้ข้อมูลแผนที่เพื่อขีดเส้นทาง อย่าง OpenStreetMap และแผนที่จาก Google และ US Geological Survey
นอกจากนั้นแอปพลิเคชั่น PinMe ยังคงใช้เซ็นเซอร์อุณหภูมิ ความชื้น และความดันอากาศ เพื่อนำไปเทียบกับรายงานของช่องพยากรณ์ ให้ผลลัพธ์ออกมาแม่นยำยิ่งขึ้น
นักวิจัยบอกว่าแอปพลิเคชั่นนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบและเป็นเพียงแอปพลิเคชั่นทดลองเท่านั้น เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการป้องกันในอนาคตได้
นักวิจัยความปลอดภัยทดลองสร้างแอปพลิเคชั่นที่สามารถติดตามผู้ใช้ โดยมีเงื่อนไขว่าแอปพลิเคชั่นจะต้องไม่ใช้ข้อมูล GPS และไม่ต้องอาศัยให้ผู้ใช้เปิด GPS
ในมุมมองของนักวิจัยบอกว่าเป็นไปได้เพราะโทรศัพท์ในปัจจุบันมีเซ็นเซอร์ที่แม่นยำ และอาศัยแหล่งข้อมูลอื่นๆ อย่างเช่นแผนที่ ข้อมูลพยากรณ์ และการเคลื่อนไหวของผู้ใช้
แอปพลิเคชั่นดังกล่าวชื่อ PinMe app ผลิตโดยทีมงานวิจัย Princeton และอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบก็มี Galaxy S4 i9500 iPhone 6 และ iPhone 6S
โดยแอปพลิเคชั่นนี้สามารถใช้ข้อมูลต่างๆเพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องเข้าถึงข้อมูล GPS ของอุปกรณ์ที่ทดสอบ
แอปพลิเคชั่นใช้วิธีรวบรวมข้อมูลผู้ใช้อย่าง IP Address และการเชื่อมต่อ WiFi เพื่อเทียบกับฐานข้อมูล WiFi สาธารณะ และคาดคะเนตำแหน่งของผู้ใช้
หลังจากนั้นจะใช้ข้อมูลจาก Gyroscope, Accelerometer และ Altitude Sensors เพื่อประเมินความเร็วการเคลื่อนที่ของผู้ใช้ ทิศทาง และแอปพลิเคชั่นจะใช้ข้อมูลทั้งหมดเพื่อกำหนดว่าผู้ใช้กำลังเดินทางด้วยวิธีไหน เดิน ขับรถ รถไฟ หรือเครื่องบิน
เมื่อแอปพลิเคชั่นสามารถกำหนดตำแหน่งของผู้ใช้ และรูปแบบการเดินทางได้แล้ว แอปพลิเคชั่นจะใช้ข้อมูลแผนที่เพื่อขีดเส้นทาง อย่าง OpenStreetMap และแผนที่จาก Google และ US Geological Survey
นอกจากนั้นแอปพลิเคชั่น PinMe ยังคงใช้เซ็นเซอร์อุณหภูมิ ความชื้น และความดันอากาศ เพื่อนำไปเทียบกับรายงานของช่องพยากรณ์ ให้ผลลัพธ์ออกมาแม่นยำยิ่งขึ้น
นักวิจัยบอกว่าแอปพลิเคชั่นนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบและเป็นเพียงแอปพลิเคชั่นทดลองเท่านั้น เพื่อที่จะเป็นแนวทางในการป้องกันในอนาคตได้
แบ่งปันสิ่งนี้: