คนวัย Millennials (Generation Y) หรือผู้ที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1980 – 2000 เป็นวัยที่กำลังใช้ชีวิต และเป็นวัยที่ดูแลผู้ใหญ่มากที่สุด
จากการคาดการณ์ คาดว่าในปี 2022 อาจเกิดเหตุการณ์ขาดแคลนแรงงานในตลาดแรงงานความปลอดภัยมากถึง 1.8 ล้านคน และคนยุค Millennials เท่านั้นที่ช่วยได้
ภาวะขาดคนทำงาน
จากคำพูดของนักวิจัยความปลอดภัยอาวุโสของ ESET คุณ Stephen Cobb บอกว่าทักษะด้านความปลอดภัยของผู้ใช้อาจตามไม่ทันภัยคุกคามในปัจจุบัน และไม่มีผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยใหม่ๆเพิ่มจำนวนขึ้นมา เพราะความต้องการที่จะปกป้องสินทรัพย์ทางปัญญานั้นเป็นของคนรุ่นเก่า
คุณ Cobb เพิ่งเขียนในบทความว่า: “ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่มีประสบการณ์กำลังจะถึงเวลาเกษียณ ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่ถูกปลูกฝังให้สร้างวันพรุ่งนี้ มากกว่าปกป้องสิ่งที่มีอยู่”
แต่อย่างไรก็ตาม WannaCryptor โปรแกรมเรียกค่าไถ่ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกก็ได้ผลักประเด็นความปลอดภัยขึ้นเป็นอันดับต้นๆ และอาจเป็นแรงผลักที่ทำให้พบหนทางแก้ไขก็เป็นได้
ปรับสมดุลใหม่ให้กับอุตสาหกรรม
Center for Cybersafety and Education (CCE) บอกว่างานชิ้นโตในยุคของ Baby Boomer ที่กำลังจะเกษียณจะทำให้เราพบกับ “ที่สุดของความหลากหลายของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย”
ซึ่งคาดว่าความหลากหลายจะนำพามาซึ่งประสิทธิภาพที่มากขึ้น และตอนนี้เรากำลังมุ่งไปสู่จุดนั้น จากที่ CCE บอกว่าในอุตสาหกรรมความปลอดภัยมีคนขาว 78% แต่ในยุคของ Millennials มีคนขาวลดลง 13%
ในอีกมุมหนึ่งการไหลมาของคนรุ่นใหม่ ทำให้สัดส่วนทางเพศเปลี่ยนไปด้วย ในปี 2015 ผู้หญิงในวงการความปลอดภัยคอมพิวเตอร์มีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น “ถึงแม้ประชากรผู้หญิงจะมีสัดส่วนมากกว่าผู้ชาย และเป็นนับเป็นกำลังแรงงาน ซึ่งหมายความถึงค่าเสียโอกาสของแรงงานมืออาชีพในเชิงเศรษฐศาสตร์” คุณ Lysa Myers นักวิจัยของ ESET กล่าว
ช่วยให้ผู้คนพบความสามารถของตัวเองในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ และทำให้อัตราการจ้างงานสมดุลกับอัตราการเกษียณ ซึ่งจากรายงานบอกว่าความต้องการจ้างงานเกี่ยวความปลอดภับไซเบอร์สูงขึ้นมากกว่าสาขา IT อื่นๆถึง 3.5 เท่า และมากกว่าอาชีพอื่นๆถึง 12 เท่า
แต่ในงานวิจัยของ Raytheon และ NCSA เมื่อปี 2014 พบว่า 67% ของผู้ชายและ 77% ของผู้หญิงบอกว่าไม่มีอาจารย์หรือผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาชีพให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพด้านความปลอดภัยไซเบอร์
แตกต่างอย่างลงตัว
จากรายงานของ CCE คนยุค Millennials หรือ Gen Y เป็นมากกว่าแรงงานที่หลากหลาย เพราะพวกเขายังยอมรับความเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย
58% ของคน Gen Y มององค์กรในแง่ดี เมื่อเทียบกับยุค Baby Boomer ที่มีเพียง 48% และเด็ก Gen Y ยังยินดีกับการเปลี่ยนงาน (ไม่ใช่เรื่องของความไม่พอใจ แต่เป็นงานที่ดีกว่า)
นอกจากนั้นชาว Millennial ยังชอบหาโปรแกรมฝึกอบรม และการจัดการการทำงาน ซึ่งบอกว่าพนักงานใส่ใจเกี่ยวกับความแตกต่างของความสามารถ
งานวิจัยของ Broader ชี้ว่า Millennials ชอบเงินถุงเงินถัง ความสามารถ และงานที่หลากหลายในองค์กร เพราะสำหรับพวกเขานั่นหมายถึงค่าตอบแทนของการทำงาน
เราไม่อาจตัดสินได้ว่าหน้าตาของอุตสาหกรรมความปลอดภัยในรุ่นต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อย 37% ของคนหนุ่มสาวให้ความสนใจกับอาชีพเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ และแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆสิ่งได้เปลี่ยนไป เพราะ Millennials กำลังจะมา
Source: https://www.welivesecurity.com/2017/06/23/millennials-meet-next-generation-cybersecurity/
Translated by: Worapon H.
คนวัย Millennials (Generation Y) หรือผู้ที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 1980 – 2000 เป็นวัยที่กำลังใช้ชีวิต และเป็นวัยที่ดูแลผู้ใหญ่มากที่สุด
จากการคาดการณ์ คาดว่าในปี 2022 อาจเกิดเหตุการณ์ขาดแคลนแรงงานในตลาดแรงงานความปลอดภัยมากถึง 1.8 ล้านคน และคนยุค Millennials เท่านั้นที่ช่วยได้
ภาวะขาดคนทำงาน
จากคำพูดของนักวิจัยความปลอดภัยอาวุโสของ ESET คุณ Stephen Cobb บอกว่าทักษะด้านความปลอดภัยของผู้ใช้อาจตามไม่ทันภัยคุกคามในปัจจุบัน และไม่มีผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยใหม่ๆเพิ่มจำนวนขึ้นมา เพราะความต้องการที่จะปกป้องสินทรัพย์ทางปัญญานั้นเป็นของคนรุ่นเก่า
คุณ Cobb เพิ่งเขียนในบทความว่า: “ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่มีประสบการณ์กำลังจะถึงเวลาเกษียณ ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่ถูกปลูกฝังให้สร้างวันพรุ่งนี้ มากกว่าปกป้องสิ่งที่มีอยู่”
แต่อย่างไรก็ตาม WannaCryptor โปรแกรมเรียกค่าไถ่ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกก็ได้ผลักประเด็นความปลอดภัยขึ้นเป็นอันดับต้นๆ และอาจเป็นแรงผลักที่ทำให้พบหนทางแก้ไขก็เป็นได้
ปรับสมดุลใหม่ให้กับอุตสาหกรรม
Center for Cybersafety and Education (CCE) บอกว่างานชิ้นโตในยุคของ Baby Boomer ที่กำลังจะเกษียณจะทำให้เราพบกับ “ที่สุดของความหลากหลายของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย”
ซึ่งคาดว่าความหลากหลายจะนำพามาซึ่งประสิทธิภาพที่มากขึ้น และตอนนี้เรากำลังมุ่งไปสู่จุดนั้น จากที่ CCE บอกว่าในอุตสาหกรรมความปลอดภัยมีคนขาว 78% แต่ในยุคของ Millennials มีคนขาวลดลง 13%
ในอีกมุมหนึ่งการไหลมาของคนรุ่นใหม่ ทำให้สัดส่วนทางเพศเปลี่ยนไปด้วย ในปี 2015 ผู้หญิงในวงการความปลอดภัยคอมพิวเตอร์มีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น “ถึงแม้ประชากรผู้หญิงจะมีสัดส่วนมากกว่าผู้ชาย และเป็นนับเป็นกำลังแรงงาน ซึ่งหมายความถึงค่าเสียโอกาสของแรงงานมืออาชีพในเชิงเศรษฐศาสตร์” คุณ Lysa Myers นักวิจัยของ ESET กล่าว
ช่วยให้ผู้คนพบความสามารถของตัวเองในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ และทำให้อัตราการจ้างงานสมดุลกับอัตราการเกษียณ ซึ่งจากรายงานบอกว่าความต้องการจ้างงานเกี่ยวความปลอดภับไซเบอร์สูงขึ้นมากกว่าสาขา IT อื่นๆถึง 3.5 เท่า และมากกว่าอาชีพอื่นๆถึง 12 เท่า
แต่ในงานวิจัยของ Raytheon และ NCSA เมื่อปี 2014 พบว่า 67% ของผู้ชายและ 77% ของผู้หญิงบอกว่าไม่มีอาจารย์หรือผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาชีพให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพด้านความปลอดภัยไซเบอร์
แตกต่างอย่างลงตัว
จากรายงานของ CCE คนยุค Millennials หรือ Gen Y เป็นมากกว่าแรงงานที่หลากหลาย เพราะพวกเขายังยอมรับความเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย
58% ของคน Gen Y มององค์กรในแง่ดี เมื่อเทียบกับยุค Baby Boomer ที่มีเพียง 48% และเด็ก Gen Y ยังยินดีกับการเปลี่ยนงาน (ไม่ใช่เรื่องของความไม่พอใจ แต่เป็นงานที่ดีกว่า)
นอกจากนั้นชาว Millennial ยังชอบหาโปรแกรมฝึกอบรม และการจัดการการทำงาน ซึ่งบอกว่าพนักงานใส่ใจเกี่ยวกับความแตกต่างของความสามารถ
งานวิจัยของ Broader ชี้ว่า Millennials ชอบเงินถุงเงินถัง ความสามารถ และงานที่หลากหลายในองค์กร เพราะสำหรับพวกเขานั่นหมายถึงค่าตอบแทนของการทำงาน
เราไม่อาจตัดสินได้ว่าหน้าตาของอุตสาหกรรมความปลอดภัยในรุ่นต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อย 37% ของคนหนุ่มสาวให้ความสนใจกับอาชีพเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ และแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆสิ่งได้เปลี่ยนไป เพราะ Millennials กำลังจะมา
Source: https://www.welivesecurity.com/2017/06/23/millennials-meet-next-generation-cybersecurity/
Translated by: Worapon H.
แบ่งปันสิ่งนี้: