ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นเหมือนพลังงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และแพร่กระจายไปทั่วโลก ถึงแม้ปรากฏการณ์เหล่านี้จะไม่ได้รับความสนใจจากภาครัฐเท่าไหร่นัก
แต่ตอนนี้จากฟากฝั่งยุโรป มีพรบ.คุ้มครองข้อมูลใหม่ ชื่อว่า General Data Protection Regulation (GDPR) หรือจะเรียกเป็นภาษาไทยง่ายๆว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลทั่วไป” และกำลังจะมีผลบังคับใช้เดือน พฤษภาคม 2018 กฎหมายนี้จะเข้ามาแทนที่ของเดิมเมื่อปี 1995 นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในรอบ 20 ปีเลยก็ว่าได้

การปฏิรูปครั้งนี้ทำเพื่อให้กฏหมายกับการคุ้มครองข้อมูลทำงานร่วมกันได้ในฝั่งยุโรป พร้อมกับทำหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคบนโลกดิจิตอล ไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไรการเปลี่ยนแปลงที่จะขึ้นย่อมส่งผลต่อธุรกิจน้อยใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลของชาวยุโรป
เพื่อความโปร่งใสของกฏระเบียบและการบังคับใช้ เมื่อเหตุการณ์อย่างการล้วงข้อมูลเกิดขึ้น หรือ พื้นฐานความเป็นส่วนตัว และการที่จะทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ปฏิบัติตาม ค่าปรับจึงต้องมีปริมาณสูงถึง 4% ของผลประกอบการในแต่ละผี หรือ 20 ล้านยูโร
อีกส่วนหนึ่งของกฎหมายใหม่คือ GDPR จะทำให้ผู้ใช้มีสิทธิที่จะควบคุมความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น อย่างเช่น ผู้ใช้สามารถบอกให้องค์กรลบข้อมูลของตนที่ไม่จำเป็น หรือข้อมูลที่ผู้ใช้มีสิทธิสั่งให้องค์กรลบ

นอกจากสิทธิในการลบข้อมูล ผู้บริโภคยังมีสิทธิที่จะเรียกดูข้อมูลที่องค์กรหรือธุรกิจเก็บเอาไว้ และรับทราบว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง
มากกว่าข้อดีข้อเสียของกฎหมายใหม่คือ การปฏิรูปนี้จะช่วยให้มีการดูแลข้อมูลได้ดีขึ้น และกำจัดปัญหาความหลากหลายของพลเมือง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของกฎหมาย GDPR สามารถติดตามได้ที่ Blog ของ ESET ในหัวข้อ White Paper หรือกดตามลิงก์นี้ไปได้เลย
IS GDPR good or bad news for business?
Source: http://www.welivesecurity.com/2017/02/09/gdpr-good-bad-news-business/
Translated by: Worapon H.
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นเหมือนพลังงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และแพร่กระจายไปทั่วโลก ถึงแม้ปรากฏการณ์เหล่านี้จะไม่ได้รับความสนใจจากภาครัฐเท่าไหร่นัก
แต่ตอนนี้จากฟากฝั่งยุโรป มีพรบ.คุ้มครองข้อมูลใหม่ ชื่อว่า General Data Protection Regulation (GDPR) หรือจะเรียกเป็นภาษาไทยง่ายๆว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลทั่วไป” และกำลังจะมีผลบังคับใช้เดือน พฤษภาคม 2018 กฎหมายนี้จะเข้ามาแทนที่ของเดิมเมื่อปี 1995 นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงในรอบ 20 ปีเลยก็ว่าได้
การปฏิรูปครั้งนี้ทำเพื่อให้กฏหมายกับการคุ้มครองข้อมูลทำงานร่วมกันได้ในฝั่งยุโรป พร้อมกับทำหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคบนโลกดิจิตอล ไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไรการเปลี่ยนแปลงที่จะขึ้นย่อมส่งผลต่อธุรกิจน้อยใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลของชาวยุโรป
เพื่อความโปร่งใสของกฏระเบียบและการบังคับใช้ เมื่อเหตุการณ์อย่างการล้วงข้อมูลเกิดขึ้น หรือ พื้นฐานความเป็นส่วนตัว และการที่จะทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ปฏิบัติตาม ค่าปรับจึงต้องมีปริมาณสูงถึง 4% ของผลประกอบการในแต่ละผี หรือ 20 ล้านยูโร
อีกส่วนหนึ่งของกฎหมายใหม่คือ GDPR จะทำให้ผู้ใช้มีสิทธิที่จะควบคุมความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น อย่างเช่น ผู้ใช้สามารถบอกให้องค์กรลบข้อมูลของตนที่ไม่จำเป็น หรือข้อมูลที่ผู้ใช้มีสิทธิสั่งให้องค์กรลบ
นอกจากสิทธิในการลบข้อมูล ผู้บริโภคยังมีสิทธิที่จะเรียกดูข้อมูลที่องค์กรหรือธุรกิจเก็บเอาไว้ และรับทราบว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง
มากกว่าข้อดีข้อเสียของกฎหมายใหม่คือ การปฏิรูปนี้จะช่วยให้มีการดูแลข้อมูลได้ดีขึ้น และกำจัดปัญหาความหลากหลายของพลเมือง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของกฎหมาย GDPR สามารถติดตามได้ที่ Blog ของ ESET ในหัวข้อ White Paper หรือกดตามลิงก์นี้ไปได้เลย
IS GDPR good or bad news for business?
Source: http://www.welivesecurity.com/2017/02/09/gdpr-good-bad-news-business/
Translated by: Worapon H.
แบ่งปันสิ่งนี้: