ถ้าหากมีคนต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในห้องสมุดเซนท์หลุยส์ในอาทิตย์นี้ คุณคงได้พบเจออะไรที่ไม่เคยเจอมาก่อนอย่างแน่นอน
เหตุผลก็คือ Ransomware หรือ โปรแกรมเรียกค่าไถ่เข้าโจมตีเซิร์ฟเวอร์ของห้องสมุด ทำให้คอมพิวเตอร์ PC กว่า 700 เครื่องใน 16 พื้นที่ไม่สามารถทำงานเป็นปกติได้
จากการรายงานของสื่อโปรแกรมเรียกค่าไถ่ไม่ทราบสายพันธุ์ได้เข้าสู่ระบบของห้องสมุดในช่วงดึกของวันพุธที่ 18 มกราคม 2017
รายงานของ CNN บอกว่าอาชญากรเบื้องการโจมตีเรียกร้องเงินเป็นจำนวน 35,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (แปลงจาก bitcoin) สำหรับการถอดรหัสไฟล์
เช่นเดียวกันโปรแกรมเรียกค่าไถ่ตัวอื่นก่อนหน้านี้ เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ห้องสมุด
Ransomware ไม่สนใจความเดือดร้อนของผู้ใช้ที่จะเกิดขึ้น สิ่งเดียวที่มันต้องการคือเงินจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ความโชคดีก็คือห้องสมุดยังคงเก็บแค็ตตาล็อกไว้อย่างปลอดภัย เพราะไม่ได้อยู่ในเครื่องที่โดนโจมตี และข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หรือ ข้อมูลทางการเงินของผู้ใช้ห้องสมุดยังคงปลอดภัยดี
อีกหนึ่งข่าวดีก็คือทางห้องสมุดทำการสำรองข้อมูลไว้ นั่นแสดงว่าทางห้องสมุดยังคงมีทางเลือกนอกจายอมชำระเงิน
แต่สิ่งที่พวกเขาต้องเสียไปก็คือเวลาที่ต้องนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูทุกอย่างกลับมาสภาพเดิม เพราะจำนวนของอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งแาจต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์จนกว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
การตัดสินใจว่าจะจ่ายหรือไม่จ่ายค่าไถ่ เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก องค์กรหลายองค์กรคิดหนักกับโจทย์ข้อนี้ แต่เราก็มีบทความที่อาจมีประโยชน์ต่อคนที่กำลังตกเป็นเหยื่อของโปรแกรมเรียกค่าไถ่ Ransomware: จ่ายหรือไม่จ่าย?
WeLiveSecurity Thai Edition's 
ถ้าหากมีคนต้องการใช้คอมพิวเตอร์ในห้องสมุดเซนท์หลุยส์ในอาทิตย์นี้ คุณคงได้พบเจออะไรที่ไม่เคยเจอมาก่อนอย่างแน่นอน
เหตุผลก็คือ Ransomware หรือ โปรแกรมเรียกค่าไถ่เข้าโจมตีเซิร์ฟเวอร์ของห้องสมุด ทำให้คอมพิวเตอร์ PC กว่า 700 เครื่องใน 16 พื้นที่ไม่สามารถทำงานเป็นปกติได้
จากการรายงานของสื่อโปรแกรมเรียกค่าไถ่ไม่ทราบสายพันธุ์ได้เข้าสู่ระบบของห้องสมุดในช่วงดึกของวันพุธที่ 18 มกราคม 2017
รายงานของ CNN บอกว่าอาชญากรเบื้องการโจมตีเรียกร้องเงินเป็นจำนวน 35,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (แปลงจาก bitcoin) สำหรับการถอดรหัสไฟล์
เช่นเดียวกันโปรแกรมเรียกค่าไถ่ตัวอื่นก่อนหน้านี้ เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ห้องสมุด
Ransomware ไม่สนใจความเดือดร้อนของผู้ใช้ที่จะเกิดขึ้น สิ่งเดียวที่มันต้องการคือเงินจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ความโชคดีก็คือห้องสมุดยังคงเก็บแค็ตตาล็อกไว้อย่างปลอดภัย เพราะไม่ได้อยู่ในเครื่องที่โดนโจมตี และข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หรือ ข้อมูลทางการเงินของผู้ใช้ห้องสมุดยังคงปลอดภัยดี
อีกหนึ่งข่าวดีก็คือทางห้องสมุดทำการสำรองข้อมูลไว้ นั่นแสดงว่าทางห้องสมุดยังคงมีทางเลือกนอกจายอมชำระเงิน
แต่สิ่งที่พวกเขาต้องเสียไปก็คือเวลาที่ต้องนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูทุกอย่างกลับมาสภาพเดิม เพราะจำนวนของอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งแาจต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์จนกว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
การตัดสินใจว่าจะจ่ายหรือไม่จ่ายค่าไถ่ เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก องค์กรหลายองค์กรคิดหนักกับโจทย์ข้อนี้ แต่เราก็มีบทความที่อาจมีประโยชน์ต่อคนที่กำลังตกเป็นเหยื่อของโปรแกรมเรียกค่าไถ่ Ransomware: จ่ายหรือไม่จ่าย?
แบ่งปันสิ่งนี้: