ผลวิจัยของ National Institute of Standards หรือ (NIST) บอกว่าความเกียจคร้านในการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้กำลัง “ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง”
ผู้คนรู้สึก “หมดอาลัยตายอยาก” เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ พอๆกับการรับฟังมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับโลกออนไลน์
มีหลายคนที่ยังคงละเลยสัญญาณเตือนของภัยคุกคามไซเบอร์ อย่างเช่นคำพูดนี้: “ผมเบื่อที่จะมานั่งจำรหัสผ่าน”
คุณ Mary Theofanos ผู้ร่วมวิจัยและนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ของ NIST บอกว่า: “ปีที่ผ่านมาคุณจำรหัสผ่านแค่ชุดเดียวสำหรับการทำงาน แต่ตอนนี้เหมือนมีคนมาบอกให้จำรหัสผ่าน 25-30 ชุด นั่นหมายถึงเราไม่ได้วางแผนเรื่องการขยับขยายความปลอดภัยเลย”
ความเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามทำให้เราเห็นภาพว่าชาวอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ค่อยสนอกสนใจถึงความเสี่ยงที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่
อย่างตัวอย่างคำพูดจากผู้ให้สัมภาษณ์ “ผมไม่คิดว่าข้อมูลพวกนี้สำคัญพอที่จะทำให้เราสนใจ”
ผลวิจัยที่ออกมายังบอกอีกว่าระบบรักษาความปลอดภัยนั้นล้มเหลว ถึงแม้จะเป็นภาคส่วนสำคัญอย่างบัญชีธนาคาร
สิ่งเราต้องการก็เพียงขอให้ทุกคนเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความปลอดภัย ว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะในทุกวันนี้คนปฏิบัติกับความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ เหมือนการปิดประตูบ้านโดยไม่ล็อคกุญแจ หรือพูดง่ายๆก็คือใครจะเข้าที่แห่งนี้ก็ได้ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย
ในขณะที่ทีมนักวิจัยกำลังพัฒนา และวางแผนการรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพ และรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับสังคมออนไลน์
ผลวิจัยของ National Institute of Standards หรือ (NIST) บอกว่าความเกียจคร้านในการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้กำลัง “ทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง”
ผู้คนรู้สึก “หมดอาลัยตายอยาก” เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ พอๆกับการรับฟังมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับโลกออนไลน์
มีหลายคนที่ยังคงละเลยสัญญาณเตือนของภัยคุกคามไซเบอร์ อย่างเช่นคำพูดนี้: “ผมเบื่อที่จะมานั่งจำรหัสผ่าน”
คุณ Mary Theofanos ผู้ร่วมวิจัยและนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ของ NIST บอกว่า: “ปีที่ผ่านมาคุณจำรหัสผ่านแค่ชุดเดียวสำหรับการทำงาน แต่ตอนนี้เหมือนมีคนมาบอกให้จำรหัสผ่าน 25-30 ชุด นั่นหมายถึงเราไม่ได้วางแผนเรื่องการขยับขยายความปลอดภัยเลย”
ความเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามทำให้เราเห็นภาพว่าชาวอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ค่อยสนอกสนใจถึงความเสี่ยงที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่
อย่างตัวอย่างคำพูดจากผู้ให้สัมภาษณ์ “ผมไม่คิดว่าข้อมูลพวกนี้สำคัญพอที่จะทำให้เราสนใจ”
ผลวิจัยที่ออกมายังบอกอีกว่าระบบรักษาความปลอดภัยนั้นล้มเหลว ถึงแม้จะเป็นภาคส่วนสำคัญอย่างบัญชีธนาคาร
สิ่งเราต้องการก็เพียงขอให้ทุกคนเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความปลอดภัย ว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะในทุกวันนี้คนปฏิบัติกับความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ เหมือนการปิดประตูบ้านโดยไม่ล็อคกุญแจ หรือพูดง่ายๆก็คือใครจะเข้าที่แห่งนี้ก็ได้ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย
ในขณะที่ทีมนักวิจัยกำลังพัฒนา และวางแผนการรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพ และรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับสังคมออนไลน์
แบ่งปันสิ่งนี้: