คอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ลำโพง หรือไมโครโฟน อาจจะดูเหมือนเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อปกป้องข้อมูลขององค์กรจากการล้วงข้อมูล แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
นักวิทยาศาสตร์ในศูนย์วิจัยความปลอดภัยไซเบอร์ของมหาวิทยาลัย Ben-Gurion ใช้เวลาสองปีในการหาหนทางเพื่อขโมยข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และอื่นๆ โดยใช้เสียง (ซึ่งปกติจะไม่ได้ยิน) ที่ออกมาจากพัดลมทำความเย็นของคอมพิวเตอร์
มัลแวร์ตัวนี้ชื่อว่า Fanmitter ตามความสามารถของมัน ซึ่งสามารถกำหนดความเร็วของพัดลม เพื่อควบคุมรูปแบบของคลื่นในคอมพิวเตอร์
จากข้อมูลทุติยภูมิพบว่าผู้ควบคุมจะใช้ประโยชน์จากไมโครโฟนใกล้ๆเครื่องคอมพิวเตอร์ (อย่างโทรศัพท์มือถือ) และส่งข้อมูลผ่านระบบ Wifi หรือ SMS โดยที่ไมโครโฟนดังกล่าวอาจเป็นคอมพิวเตอร์ หรือแล็บท็อปก็ได้
ข้อมูลอย่างละเอียดของ Fanmitter สามารถอ่านต่อได้ ที่นี่
Fanmitter สามารถส่งข้อมูลสำคัญอย่างเช่น รหัส Encryption และรหัสผ่านอื่นๆด้วยความเร็ว 15 ถึง 20 บิทต่อนาที แต่นักวิจัยบอกว่าพวกเขาทำได้เร็วกว่านั้น
ผู้พัฒนา Fanmitter บอกว่า “วิธีการของเรามีจุดประสงค์เพื่อหารูปแบบของการรั่วไหลของข้อมูลที่แตกต่าง และอีกเหตุผลก็คือ อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้มักมีพัดลมเป็นส่วนประกอบ”
การวิจัยครั้งนี้ถือเป็นการทดลองวิธีใหม่ๆที่มีความเป็นไปได้ที่อาชญากรจะเอามาใช้ เพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของเรา และแสดงให้เห็นความสำคัญของการระมัดระวังตัว ถึงแม้จะอยู่ในระบบที่ปลอดภัยที่สุดก็ตาม
คอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ลำโพง หรือไมโครโฟน อาจจะดูเหมือนเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อปกป้องข้อมูลขององค์กรจากการล้วงข้อมูล แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
นักวิทยาศาสตร์ในศูนย์วิจัยความปลอดภัยไซเบอร์ของมหาวิทยาลัย Ben-Gurion ใช้เวลาสองปีในการหาหนทางเพื่อขโมยข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และอื่นๆ โดยใช้เสียง (ซึ่งปกติจะไม่ได้ยิน) ที่ออกมาจากพัดลมทำความเย็นของคอมพิวเตอร์
มัลแวร์ตัวนี้ชื่อว่า Fanmitter ตามความสามารถของมัน ซึ่งสามารถกำหนดความเร็วของพัดลม เพื่อควบคุมรูปแบบของคลื่นในคอมพิวเตอร์
จากข้อมูลทุติยภูมิพบว่าผู้ควบคุมจะใช้ประโยชน์จากไมโครโฟนใกล้ๆเครื่องคอมพิวเตอร์ (อย่างโทรศัพท์มือถือ) และส่งข้อมูลผ่านระบบ Wifi หรือ SMS โดยที่ไมโครโฟนดังกล่าวอาจเป็นคอมพิวเตอร์ หรือแล็บท็อปก็ได้
ข้อมูลอย่างละเอียดของ Fanmitter สามารถอ่านต่อได้ ที่นี่
Fanmitter สามารถส่งข้อมูลสำคัญอย่างเช่น รหัส Encryption และรหัสผ่านอื่นๆด้วยความเร็ว 15 ถึง 20 บิทต่อนาที แต่นักวิจัยบอกว่าพวกเขาทำได้เร็วกว่านั้น
ผู้พัฒนา Fanmitter บอกว่า “วิธีการของเรามีจุดประสงค์เพื่อหารูปแบบของการรั่วไหลของข้อมูลที่แตกต่าง และอีกเหตุผลก็คือ อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้มักมีพัดลมเป็นส่วนประกอบ”
การวิจัยครั้งนี้ถือเป็นการทดลองวิธีใหม่ๆที่มีความเป็นไปได้ที่อาชญากรจะเอามาใช้ เพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของเรา และแสดงให้เห็นความสำคัญของการระมัดระวังตัว ถึงแม้จะอยู่ในระบบที่ปลอดภัยที่สุดก็ตาม
แบ่งปันสิ่งนี้: