คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กังวลเรื่องของคอมพิวเตอร์หรือเปล่า? คุณเคยกลัวข้อมูลในคอมพิวเตอร์หายหรือไม่? แล้วกลัวว่าพนักงานในบริษัทของตัวเองดาวน์โหลดไวรัสลงเครื่องของบริษัทหรือไม่?
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดแบบนี้ ในปัจจุบันสถานที่ทำงานมีความเป็นดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ครองตำแหน่งระดับหัวหน้าหรือผู้บริหารในองค์กร ซึ่งจะทำให้คุณมีส่วนรับผิดชอบกับภัยเหล่านี้ และคุณก็ซาบซึ้งมากที่ต้องรับผิดชอบภาระอันยิ่งใหญ่นี้
มีการประเมินว่าค่าความเสียหานที่เกิดจากอาชญากรรมไซเบอร์อาจสูงถึง 1 ล้านๆเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเท่านี้ก็มากพอที่จะทำให้ผู้บริหารหรือใครก็ตามที่มีหน้าที่ตัดสินใจสิ่งสำคัญๆคิดหนัก
แต่อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามมีความร้ายแรงมากขึ้นทุกวัน ความซับซ้อนก็มากขึ้นด้วย แต่ด้วยเทคโนโลยีของเราสามารถยับยั้งมันได้ เราจึงมีวิธีการง่ายๆเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านได้นำไปใช้ เพราะหลังจากที่คุณกลับจากที่ทำงาน มันก็เป็นหน้าที่ของระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว
ความเครียดหมายเลข #1 พาสเวิร์ด
พาสเวิร์ดที่ง่ายเกินไปกลายเป็นปัญหาใหญ่ภายในองค์กร เพราะส่วนมากพาสเวิร์ดที่ใช้มักเป็นพาสเวิร์ดที่คาดเดาง่าย หรือเป็นพาสเวิร์ดเริ่มต้น อย่างที่เราเขียนบทความเกี่ยวกับ สิ่งก่อสร้างก็มีสิทธิตกเป็นเหยื่อของการโจมตีไซเบอร์ได้ ที่พบว่าระบบรักษาความปลอดภัยของบางอาคารยังคงใช้พาสเวิร์ดตั้งต้นอยู่
วิธีแก้เครียด:
- บังคับให้มีการตั้งพาสเวิร์ดที่แน่นหนาขึ้น อย่างเช่น การให้ผสมสัญลักษณ์ หรือให้พาสเวิร์ดมีความยาวพอสมควร
- สร้างวัฒนธรรมการเปลี่ยนพาสเวิร์ดในบริษัท เป็นหนึ่งในแผนการความปลอดภัย
- แนะนำการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน หรือ 2FA ให้พนักงานรู้จัก
ความเครียดหมายเลข #2 อุปกรณ์สื่อสาร
วิธีการทำงานของคนกำลังเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ด้วยเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาแทนที่ ทุกวันนี้มีกูรูเทคโนโลยีมากขึ้น พร้อมกับอุปกรณ์ไฮเทคที่ทำให้เราสามารถทำงานได้ในทุกๆสถานที่ที่เราต้องการ
BYOD หรือ Bring Your Own Device เป็นเทรนด์ที่กำลังเข้ามามีอิทธิพลในสังคมการทำงาน หมายถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เพราะในบางครั้งที่พนักงานที่ไม่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์จะเชื่อมต่อข้อมูลกับบริษัทบนเครือข่ายสาธารณะซึ่งไม่รับรองว่าปลอดภัย
วิธีแก้เครียด:
- ติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมให้กับอุปกรณ์ทุกชิ้น โดนเฉพาะอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลสำคัญของบริษัท
- เพิ่มเกราะการป้องกันอีกชั้นด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัส
ความเครียดหมายเลข #3 สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล
ในศตวรรษที่ 21 สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดก็คือ ข้อมูล ดังนั้นการปกป้องข้อมูลก็กลายเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับบริษัท แต่จากหลายๆเหตุการณ์พบว่าหลายองค์กรยังคงล้มเหลวในการปกป้องข้อมูลสำคัญของตนเอง หรือแม้กระทั่งของลูกค้า
วิธีแก้เครียด:
- อย่างที่บอกไว้ ใช้ประโยชน์ของการเข้ารหัสเพื่อสนับสนุนระบบรักษาความปลอดภัย
- แนะนำการเข้ารหัสให้ใช้ในที่ทำงาน อย่างเช่น อุปกรณ์ เพราะถ้าอุปกรณ์ใดๆบรรจุไฟล์สำคัญอาจจะเป็นสาเหตุของการรั่วไหลได้
ความเครียดหมายเลข #4 พนักงาน
อีกอย่างที่เป็นสิ่งสำคัญในองค์กร พนักงานเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร จากบทความเกี่ยวกับ ภัย(ไซเบอร์)ในองค์กร ที่บอกเล่าเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ที่สามารถเกิดขึ้นได้หากพนักงานในองค์กรไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และความปลอดภัย จนอาจจะลงเอยเป็นอาชญากรรมไซเบอร์
วิธีแก้เครียด:
- จัดอบรมเกี่ยวความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ให้กับพนักงาน
- แบ่งปันข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยให้กับพนักงานผ่านอีเมล์ หรือเซิร์ฟเวอร์อื่นๆ
- ฝึกการรับมือกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าบนโลกไซเบอร์
หากทำตามคำแนะนำเหล่านี้ อาจจะดูเหมือนเป็นภาระความรับผิดชอบที่มากขึ้น แต่เชื่อเถอะครับว่าสักวันสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดเหตุการณ์ที่คุณจะมานั่งปวดหัวได้อย่างแน่นอน และยังทำให้องค์กรคุณมีความมั่นคงขึ้นอีกด้วย
คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กังวลเรื่องของคอมพิวเตอร์หรือเปล่า? คุณเคยกลัวข้อมูลในคอมพิวเตอร์หายหรือไม่? แล้วกลัวว่าพนักงานในบริษัทของตัวเองดาวน์โหลดไวรัสลงเครื่องของบริษัทหรือไม่?
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดแบบนี้ ในปัจจุบันสถานที่ทำงานมีความเป็นดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ครองตำแหน่งระดับหัวหน้าหรือผู้บริหารในองค์กร ซึ่งจะทำให้คุณมีส่วนรับผิดชอบกับภัยเหล่านี้ และคุณก็ซาบซึ้งมากที่ต้องรับผิดชอบภาระอันยิ่งใหญ่นี้
มีการประเมินว่าค่าความเสียหานที่เกิดจากอาชญากรรมไซเบอร์อาจสูงถึง 1 ล้านๆเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเท่านี้ก็มากพอที่จะทำให้ผู้บริหารหรือใครก็ตามที่มีหน้าที่ตัดสินใจสิ่งสำคัญๆคิดหนัก
แต่อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามมีความร้ายแรงมากขึ้นทุกวัน ความซับซ้อนก็มากขึ้นด้วย แต่ด้วยเทคโนโลยีของเราสามารถยับยั้งมันได้ เราจึงมีวิธีการง่ายๆเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้อ่านได้นำไปใช้ เพราะหลังจากที่คุณกลับจากที่ทำงาน มันก็เป็นหน้าที่ของระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว
ความเครียดหมายเลข #1 พาสเวิร์ด
พาสเวิร์ดที่ง่ายเกินไปกลายเป็นปัญหาใหญ่ภายในองค์กร เพราะส่วนมากพาสเวิร์ดที่ใช้มักเป็นพาสเวิร์ดที่คาดเดาง่าย หรือเป็นพาสเวิร์ดเริ่มต้น อย่างที่เราเขียนบทความเกี่ยวกับ สิ่งก่อสร้างก็มีสิทธิตกเป็นเหยื่อของการโจมตีไซเบอร์ได้ ที่พบว่าระบบรักษาความปลอดภัยของบางอาคารยังคงใช้พาสเวิร์ดตั้งต้นอยู่
วิธีแก้เครียด:
ความเครียดหมายเลข #2 อุปกรณ์สื่อสาร
วิธีการทำงานของคนกำลังเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ด้วยเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาแทนที่ ทุกวันนี้มีกูรูเทคโนโลยีมากขึ้น พร้อมกับอุปกรณ์ไฮเทคที่ทำให้เราสามารถทำงานได้ในทุกๆสถานที่ที่เราต้องการ
BYOD หรือ Bring Your Own Device เป็นเทรนด์ที่กำลังเข้ามามีอิทธิพลในสังคมการทำงาน หมายถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เพราะในบางครั้งที่พนักงานที่ไม่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์จะเชื่อมต่อข้อมูลกับบริษัทบนเครือข่ายสาธารณะซึ่งไม่รับรองว่าปลอดภัย
วิธีแก้เครียด:
ความเครียดหมายเลข #3 สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล
ในศตวรรษที่ 21 สินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดก็คือ ข้อมูล ดังนั้นการปกป้องข้อมูลก็กลายเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับบริษัท แต่จากหลายๆเหตุการณ์พบว่าหลายองค์กรยังคงล้มเหลวในการปกป้องข้อมูลสำคัญของตนเอง หรือแม้กระทั่งของลูกค้า
วิธีแก้เครียด:
ความเครียดหมายเลข #4 พนักงาน
อีกอย่างที่เป็นสิ่งสำคัญในองค์กร พนักงานเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร จากบทความเกี่ยวกับ ภัย(ไซเบอร์)ในองค์กร ที่บอกเล่าเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ที่สามารถเกิดขึ้นได้หากพนักงานในองค์กรไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และความปลอดภัย จนอาจจะลงเอยเป็นอาชญากรรมไซเบอร์
วิธีแก้เครียด:
หากทำตามคำแนะนำเหล่านี้ อาจจะดูเหมือนเป็นภาระความรับผิดชอบที่มากขึ้น แต่เชื่อเถอะครับว่าสักวันสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดเหตุการณ์ที่คุณจะมานั่งปวดหัวได้อย่างแน่นอน และยังทำให้องค์กรคุณมีความมั่นคงขึ้นอีกด้วย
แบ่งปันสิ่งนี้: