ลืมภาพลักษณ์แฮกเกอร์เก่าๆ ที่ต้องใส่เสื้อฮู้ดนั่งอยู่ในชั้นใต้ดินมืดๆกับจอคอมพิวเตอร์เยอะๆไปก่อน
ส่วนตัวผมเคยเป็นตำรวจมาก่อน และเคยมีโอกาสเขียนเกี่ยวกับข้อมูลอาชญากรเมื่อให้การสอบสวนนั้นง่ายขึ้น โดยปกติเรามักใช้ผู้เชี่ยวชาญและนักจิตวิทยาเพื่อช่วยรวบรวมเบาะแสในบางคดีที่ไม่ค่อยคืบหน้า
มีช่วงเวลาร่วม 10 ปี ที่ผมทำอยู่แผนกนิติวิทยาศาสตร์ดิจิตอล พบว่าการตามตัวอาชญากรไซเบอร์นั้นยากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อกลับมา ณ ปัจจุบันการคัดแยกมิจฉาชีพทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงเรามีสิทธิในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือได้
จากการวิจัยเหล่าอาชญากร อย่าง ฆาตกร มิจฉาชีพ และผู้ค้ายาเสพติด คนในกลุ่มนี้ทั้งหมดมักทิ้งหลักฐานเชิงนิติวิทยาศาสตร์ดิจิตอลไว้เสมอ เหตุผลหลักก็คือพวกเขาไม่มีความรู้ด้านเทคนิค อย่างเช่นการฆาตกรรม พวกเขาจำเป็นต้องมีอาวุธและพวกเขาอาจซื้อมาด้วยเงินสกุลออนไลน์
ในทุกวันนี้อาชญากรไซเบอร์ถูกจับตัวน้อยมากหากเทียบกับเหตุการณ์ไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ฆาตกรรม ผู้ต้องหามักมีอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ที่สามารถนำมาเป็นหลักฐาน หรืออาวุธที่ใช้ก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ แต่อาชญกรไซเบอร์นั้นไม่มีอะไรพวกนี้มาเป็นข้อมูลที่เราจะใช้ตามตัวได้เลย
ในความเป็นจริงของทุกวันนี้แฮกเกอร์สามารถสั่งซื้อโปรแกรมอันตรายหรือมัลแวร์ผ่านตลาดมืดได้อย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ พวกเราเคยมีบทความที่เกี่ยวกับตลาดมืดของแฮกเกอร์ที่เป็นเหมือนสถานที่ช้อปปิ้งออนไลน์ของพวกเขา
นี่คงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทุกวันนี้การเดินดุ่มๆเข้าปล้นธนาคารเกิดขึ้นน้อยลง และการขโมยของออนไลน์นั้นทำได้ง่ายโดยแทยไม่ทิ้งร่องรอย
ปัญหาก็คือกน่อยงานบังคับใช้กฎหมายอาจยังไม่เอาจริงเอาจังกับอาชญากรไซเบอร์มากเท่าที่ควร และยังคงทำงานเหมือนเดิม หรืออาจจะเป็นเรื่องของเงินทุน
ภาพลักษณ์ของอาชญากรไซเบอร์ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์ พวกเขาทำงานกันเป็นองค์กร และหน่อยงานทางกฎหมายก็ยังคงดิ้นรน สิ่งที่เราทำได้คงเป็นการป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้อาชญากรไซเบอร์สามารถเข้าถึงตัวเราได้
Author: Jake Moore
Source: https://www.welivesecurity.com/2019/01/15/what-makes-cybercriminal/
Translated by: Worapon H.
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
ลืมภาพลักษณ์แฮกเกอร์เก่าๆ ที่ต้องใส่เสื้อฮู้ดนั่งอยู่ในชั้นใต้ดินมืดๆกับจอคอมพิวเตอร์เยอะๆไปก่อน
ส่วนตัวผมเคยเป็นตำรวจมาก่อน และเคยมีโอกาสเขียนเกี่ยวกับข้อมูลอาชญากรเมื่อให้การสอบสวนนั้นง่ายขึ้น โดยปกติเรามักใช้ผู้เชี่ยวชาญและนักจิตวิทยาเพื่อช่วยรวบรวมเบาะแสในบางคดีที่ไม่ค่อยคืบหน้า
มีช่วงเวลาร่วม 10 ปี ที่ผมทำอยู่แผนกนิติวิทยาศาสตร์ดิจิตอล พบว่าการตามตัวอาชญากรไซเบอร์นั้นยากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อกลับมา ณ ปัจจุบันการคัดแยกมิจฉาชีพทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงเรามีสิทธิในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือได้
จากการวิจัยเหล่าอาชญากร อย่าง ฆาตกร มิจฉาชีพ และผู้ค้ายาเสพติด คนในกลุ่มนี้ทั้งหมดมักทิ้งหลักฐานเชิงนิติวิทยาศาสตร์ดิจิตอลไว้เสมอ เหตุผลหลักก็คือพวกเขาไม่มีความรู้ด้านเทคนิค อย่างเช่นการฆาตกรรม พวกเขาจำเป็นต้องมีอาวุธและพวกเขาอาจซื้อมาด้วยเงินสกุลออนไลน์
ในทุกวันนี้อาชญากรไซเบอร์ถูกจับตัวน้อยมากหากเทียบกับเหตุการณ์ไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ฆาตกรรม ผู้ต้องหามักมีอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ที่สามารถนำมาเป็นหลักฐาน หรืออาวุธที่ใช้ก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ แต่อาชญกรไซเบอร์นั้นไม่มีอะไรพวกนี้มาเป็นข้อมูลที่เราจะใช้ตามตัวได้เลย
ในความเป็นจริงของทุกวันนี้แฮกเกอร์สามารถสั่งซื้อโปรแกรมอันตรายหรือมัลแวร์ผ่านตลาดมืดได้อย่างง่ายดายโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ พวกเราเคยมีบทความที่เกี่ยวกับตลาดมืดของแฮกเกอร์ที่เป็นเหมือนสถานที่ช้อปปิ้งออนไลน์ของพวกเขา
นี่คงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทุกวันนี้การเดินดุ่มๆเข้าปล้นธนาคารเกิดขึ้นน้อยลง และการขโมยของออนไลน์นั้นทำได้ง่ายโดยแทยไม่ทิ้งร่องรอย
ปัญหาก็คือกน่อยงานบังคับใช้กฎหมายอาจยังไม่เอาจริงเอาจังกับอาชญากรไซเบอร์มากเท่าที่ควร และยังคงทำงานเหมือนเดิม หรืออาจจะเป็นเรื่องของเงินทุน
ภาพลักษณ์ของอาชญากรไซเบอร์ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์ พวกเขาทำงานกันเป็นองค์กร และหน่อยงานทางกฎหมายก็ยังคงดิ้นรน สิ่งที่เราทำได้คงเป็นการป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้อาชญากรไซเบอร์สามารถเข้าถึงตัวเราได้
Author: Jake Moore
Source: https://www.welivesecurity.com/2019/01/15/what-makes-cybercriminal/
Translated by: Worapon H.
Share this:
Like this: