เจ้าของธุรกิจหลายต่อหลายธุรกิจในประเทศอังกฤษ มองการโจมตีทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งขององค์กร จากผลการศึกษา
รายงานมูลค่าความเสี่ยงจาก NTT Com Security เปิดเผยว่าประมาณหนึ่งในห้าของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าอาชญากรรมไซเบอร์เป็นภัยอันดับหนึ่งต่อองค์กรของพวกเขา
ผู้บริหารยังคาดว่าผลร้ายที่ตามมาจากการเจาะข้อมูลฝ่ายการเงินจะมีแนวโน้มร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ
ตัวอย่างจากรายงานพบว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะทำให้รายได้ตกลงประมาณ 13% จากที่ประเมินไว้ 8% ในปี 2014
อีกหนึ่งข้อค้นพบที่เจอคือคนส่วนมากมักแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่าที่สาเหตุของปัญหา
“แต่เกือบสองในสามคาดว่าของธุรกิจถูกเจาะ ใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 8 สัปดาห์ และค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจสูงถึง 1 ล้านยูโร” คุณ Stuart Reed กรรมการบริษัทอาวุโสด้านผลิตภัณฑ์จาก NTT Communications กล่าว
“ขณะที่สิ่งสำคัญคือการมองหาวิธีรับมือหากเกิดเหตุการณ์เลวร้าย อย่างชาญฉลาดที่สุด”
ในขณะที่รายงานยอมรับว่าการตัดสินใจของธุรกิจในการพัฒนาและปรับตัวกับนโยบายความปลอดภัยด้าน IT และอีกหลายธุรกิจยังคงต้องการช่วยเหลือ
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้อาจจะดูเหมือนเป็นผลดีแต่ความตื่นตัวคงไม่เพียงพอแต่ต้องเกิดการกระทำด้วย เพราะทุกวันนี้พื้นที่ปลอดภัยบนโลกไซเบอร์นั้นมีน้อยเหลือเกิน
“นี่คือสาเหตุที่ต้องมีการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมที่รอบด้าน และแผนการที่เข้มแข็งต่อความเสี่ยง” คุณ Reed อธิบาย “แต่มันก็ไม่ได้ง่าย เหมือนจ่ายเงินมากขึ้นแล้วจะไม่ต้องตรวจสอบปัญหา”
หมายความว่าธุรกิจจะต้องเข้าใจความเสี่ยง และจัดลำดับพื้นที่ความเสี่ยงและจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสมกับนโยบายความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์
ในข่าวที่เกี่ยวข้อง ประกาศไว้ว่ามีศูนย์การเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์เปิดตัวใหม่ เพื่อความเป็นมืออาชีพให้กับฝ่ายทรัพยากรบุคคลซึ่งต้องเก็บข้อมูลสำคัญ สร้างเพิ่มความเข้าใจ และความรู้ในที่ทำงาน
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
เจ้าของธุรกิจหลายต่อหลายธุรกิจในประเทศอังกฤษ มองการโจมตีทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งขององค์กร จากผลการศึกษา
รายงานมูลค่าความเสี่ยงจาก NTT Com Security เปิดเผยว่าประมาณหนึ่งในห้าของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าอาชญากรรมไซเบอร์เป็นภัยอันดับหนึ่งต่อองค์กรของพวกเขา
ผู้บริหารยังคาดว่าผลร้ายที่ตามมาจากการเจาะข้อมูลฝ่ายการเงินจะมีแนวโน้มร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ
ตัวอย่างจากรายงานพบว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะทำให้รายได้ตกลงประมาณ 13% จากที่ประเมินไว้ 8% ในปี 2014
อีกหนึ่งข้อค้นพบที่เจอคือคนส่วนมากมักแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่าที่สาเหตุของปัญหา
“แต่เกือบสองในสามคาดว่าของธุรกิจถูกเจาะ ใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 8 สัปดาห์ และค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจสูงถึง 1 ล้านยูโร” คุณ Stuart Reed กรรมการบริษัทอาวุโสด้านผลิตภัณฑ์จาก NTT Communications กล่าว
“ขณะที่สิ่งสำคัญคือการมองหาวิธีรับมือหากเกิดเหตุการณ์เลวร้าย อย่างชาญฉลาดที่สุด”
ในขณะที่รายงานยอมรับว่าการตัดสินใจของธุรกิจในการพัฒนาและปรับตัวกับนโยบายความปลอดภัยด้าน IT และอีกหลายธุรกิจยังคงต้องการช่วยเหลือ
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้อาจจะดูเหมือนเป็นผลดีแต่ความตื่นตัวคงไม่เพียงพอแต่ต้องเกิดการกระทำด้วย เพราะทุกวันนี้พื้นที่ปลอดภัยบนโลกไซเบอร์นั้นมีน้อยเหลือเกิน
“นี่คือสาเหตุที่ต้องมีการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมที่รอบด้าน และแผนการที่เข้มแข็งต่อความเสี่ยง” คุณ Reed อธิบาย “แต่มันก็ไม่ได้ง่าย เหมือนจ่ายเงินมากขึ้นแล้วจะไม่ต้องตรวจสอบปัญหา”
หมายความว่าธุรกิจจะต้องเข้าใจความเสี่ยง และจัดลำดับพื้นที่ความเสี่ยงและจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสมกับนโยบายความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์
ในข่าวที่เกี่ยวข้อง ประกาศไว้ว่ามีศูนย์การเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์เปิดตัวใหม่ เพื่อความเป็นมืออาชีพให้กับฝ่ายทรัพยากรบุคคลซึ่งต้องเก็บข้อมูลสำคัญ สร้างเพิ่มความเข้าใจ และความรู้ในที่ทำงาน
Share this:
Like this: